รีวิว Lambretta X200 ลองขี่ครั้งแรกในโลก Lambretta ซาฟารีเวิลด์

หลังจากที่ Lambretta X300 ได้เปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยไปครบขวบปีพอดี ล่าสุด แลมเบรตต้า ฉลองครบรอบ 76 ปี เปิดตัว Lambretta X200 ใหม่ เอาใจสาย New Entry ที่อยากขยับจาก Scooter ญี่ปุ่น เข้ามาเล่นรถสกู๊ตเตอร์อิตาเลียนแท้ๆ

X200 มากับขนาดเครื่องยนต์ใหม่ สีสันมากมาย และราคา ที่เปิดชน Scooter Italian พิกัด 150cc ด้วยค่าตัว 134,900 บาท พร้อม Voucher ส่วนลดพิเศษในช่วงเปิดตัวให้อีก 5,000 บาท จะเหลือเพียง 1.299 แสนบาท ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในตลาดตลาดกลุ่มของ Scooter Italian

สำหรับบอดี้ตัวรถ X200 ยังคงคอนเซปต์ การออกแบบ Low & Long มาพร้อมรูปทรง Diamond Line หรือที่ผมขอเรียกมันว่าแนว อิตาเลียนไซเบอร์พังค์ เหมือนตัวพี่ X300

ชุดไฟแบบ Full LED ไฟหน้าทรงหกเหลี่ยมเอกลักษณ์ของแลมเบรตต้า

กับไฟท้ายประจำตระกูล X-Series ที่ออกแบบเป็นทรงคริสตัล 7 แท่ง มีไฟเลี้ยว Built in ในโคม

มีดีเทลของโลโก้ Lambretta อยู่ตามจุดต่างๆ มากมาย รอบตัวรถ มาตรวัดยังเป็นแบบอนาล็อก + ดิจิตอล
ชุดกุญแจแบบ Smart Key มี Port Type C แบบ Fast Charge ในลิ้นชักซ้าย

บอดี้ตัวรถทำจากเหล็ก โดยเฉพาะฝาข้าง ออกแบบมาให้ง่ายต่อการเซอร์วิส หรือการคัสตอม

แม้โครงสร้างและมิติตัวรถ จะเหมือนกับตัวพี่ X300 แต่จะมีความแตกต่างเรื่องรายละเอียด ใน X200 ได้ออกแบบตัดขอบดำ ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ขอบคิ้วบอดี้, กรอบโคมไฟ,

กระจก, ช่องแตร, โช้กอัพ,

เบาะนั่ง, พักเท้าผู้ซ้อน ,แคร้งเครื่อง,

ท่อไอเสีย พร้อมกับลวดลายกราฟฟิกแบบใหม่ที่ให้อารมณ์ความสปอร์ต

ในส่วนของสี Lambretta X200 มีทั้งสิ้น 6 สี 2 สไตล์ ได้แก่
สไตล์ Playful Colors สีสันสดใส ประกอบไปด้วย
สีชมพู SALMON PINK (แซลมอนพิงค์) สีพิเศษโทนชมพูอมส้ม
สีฟ้า CLOUDY BLUE (คลาวดี้บลู) แรงบันดาลใจจากก้อนเมฆบนท้องฟ้า
สีเหลือง LIMONCELLO YELLOW (เลม่อนเชลโล่) แรงบันดาลจากสีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อิตาเลียน

สไตล์ Monochrome แบบไล่เฉดสี คุมโทน ซึ่งจะเป็นสีเดียวกับ X300 SR ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ประกอบไปด้วย
สีขาว Gemma White มีประกายเหมือนอัญมณี
สีดำ SUPER BLACK ดุดำทั้งคัน สไตล์ All Black

และคันนี้สีเทาเข้ม SCURO GREY ซึ่ง X300 SR จะแตกต่าง ตรงที่จะตัดขอบโครเมียม แต่ในรุ่น X200 ทุกสีจะตัดขอบสีดำทั้งหมด ให้อารมณ์สปอร์ตดุดัน

สำหรับท่านั่งขี่ โดยรวมแล้วก็ไม่แตกต่างจากเดิม ทั้งความสูงเบาะ 790 มม. ถือว่าเป็น อิตาเลียนสกู๊ตเตอร์ เบาะนั่งไม่สูงเกินไป

กับ นน.ตัวแถว 160 กก. ใกล้เคียงเดิม อาจจะหนักนิดหน่อยเวลาเข็น แต่พอขี่ออกไปแล้ว ก็ถือว่าขี่ได้ง่ายสะดวก คล่องตัวพอประมาณ

จุดสำคัญของ X200 คือเครื่องยนต์ LSP พิกัด 184.7cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว
กำลัง 18.1 hp แรงกว่า Scooter Italian ช่วงพิกัด 150cc อยู่ราว 5 hp

สไตล์คาแรกเตอร์รถยังแอบคล้าย X300 คือ มีรอบที่จัดจ้านมารอ ให้พร้อมเปิดคันเร่งพุ่งทะยาน จะไม่ใช่แนว ขึ้นมาแบบเดินเรื่อยๆ เหมือน G350 แน่นอน กำลังน้อยลงบนบอดี้เท่าเดิม มันไม่ได้แรงเท่า X300 แต่ถือว่าโดยรวมสมรรถนะ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันแล้ว

สำหรับการทดสอบเรื่องของ ความเร็วปลายนั้น เราพบว่าหน้าไมล์ได้มากกว่าที่คิดไว้ 138 kmph GPS ได้เท่าไร รับชมได้ที่คลิป

ส่วนระบบกันสะเทือนยังคงเอกลักษณ์ Double Arm ทางด้านหน้า จากอดีตสู่ปัจจุบัน
Lambretta ได้ทำการอัพเกรด โช้ก หน้า-หลัง ใหม่ ปรับพรีโหลดได้ 7 ระดับ (X300 เดิม หน้าจะปรับไม่ได้ หลัง ปรับได้ 5 ระดับ)

จากการอัพเกรด ก็จะทำให้มันยืดหยุ่นกับผู้ขี่แต่ละคนมากยิ่งขึ้น และให้ความนุ่มนวลดีขึ้นกว่าเดิมอีกนิด

ระบบเบรกจานดิสก์เดี่ยว หน้า-หลัง มาพร้อม ABS Dual Channel
สเป็กยกมาจาก X300 ตามที่ผมได้รีวิวไปแล้วว่า มันชะลอความเร็วได้เหมาะสม เพียงแต่ ฟีลก้านเบรกอาจจะแข็งนิดๆ
ดังนั้น บน X200 คันนี้ ถือว่าชะลอหยุดรถได้แบบสบายๆ

สรุป รีวิว Lambretta X200 ถือได้ว่า เป็นอีกไลน์อัพที่เปิดมาเอาใจ คอแลม ที่ชอบรูปทรงหล่อๆสไตล์ Cyberpunk มากับสีสันให้เลือกมากมาย ในตัวเลือกพิกัดใหม่ กับราคาที่จับต้องง่ายกว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัพจาก Scooter ญี่ปุ่นมาขี่ Italian Scooter แท้

Lambretta X200 ราคา เปิดพิเศษ 129,900 บาท ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์ หน้าร้าน หรือ งาน Motor Expo แต่หลังจากวันที่ 11 ธ.ค. 66 เป็นต้นไป ราคาจะ +5,000 บาท ขึ้นมาอยู่ที่ 134,900 บาท
ดังนั้นใครสนใจ อย่ารอช้ารีบจับจองได้เลย